โครงร่างงานวิจัยของนักศึกษา
งานวิจัยเรื่อง
ศิลปะการออกแบบชั้นวางของเพื่อเด็กพิเศษ ชุด Animal
Planet : บ้านเฟื่องฟ้า พ.ศ. 2555
ART DESIGN
PROJECT OF MIRACLE ANIMAL PLANET SHELF : BAAN FUENGFAH
ชื่อผู้ทำวิจัย นายวรมน เทพรัตน์
รหัสประจำตัว 531132XXXX
สาขาวิชาศิลปกรรม
(ออกแบบประยุกต์ศิลป์)
ภาควิชามนุษยศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
ความเห็นของอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการวิจัย
........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
ลงชื่อ .............................................
(.............................................)
คณบดีหรือรองคณบดีพิจารณาเห็นชอบ
................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
ลงชื่อ ..............................................
(...............................................)
ข้อเสนอการวิจัยเพื่อขอรับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษมประเภทนักศึกษา
ส่วน ก : ลักษณะทั่วไปของโครงการวิจัย
1.
ปีการศึกษาที่เสนอขอรับทุน ...............................
2.
ประเภทการวิจัย
(
) การวิจัยเชิงสำรวจ (
√ ) การวิจัยเชิงทดลอง ( ) การวิจัยและพัฒนา
3.
งบประมาณที่เสนอขอทุน
บาท
4.
ระยะเวลาในการทำวิจัย 1 ปี
ส่วน ข : รายละเอียดการทำวิจัย
1.
ชื่อโครงการวิจัย ศิลปะการออกแบบชั้นวางของเพื่อเด็กพิเศษ ชุด Animal
Planet : บ้านเฟื่องฟ้า พ.ศ. 2555
ART DESIGN
PROJECT OF MIRACLE ANIMAL PLANET SHELF : BAAN FUENGFAH
2.
ที่มาและความสำคัญของปัญหาการวิจัย
ศิลปะเป็นภาษาสากลที่เชื่อมโยงการสื่อสาร การรับรู้ ความเข้าใจแก่คนทุกเพศทุกวัยได้อย่างน่าทึ่งและมหัศจรรย์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเด็กพิเศษ หรือ "เด็กที่มีความต้องการพิเศษ" ที่จำเป็นต้องได้รับการดูแล ช่วยเหลือเพิ่มเติมจากปกติ และเป็นพิเศษทั้งในด้านการใช้ชีวิตประจำวัน
การเรียนรู้ และการเข้าสังคม ด้วยความน่าทึ่งและมหัศจรรย์ของงานศิลปะดังที่กล่าวข้างต้น
พบว่าเด็กกลุ่มพิเศษสามารถสร้างสรรค์งานศิลปะได้อย่างน่าทึ่ง เมื่อเร็วๆ นี้
บริษัท นานมี จำกัด ได้ร่วมกับโรงเรียนเปรมฤดีศึกษา ที่เปิดโอกาสให้น้องๆ ที่เป็นเด็กพิเศษเรียนร่วมชั้นเรียนกับเพื่อนๆ
เด็กปกติ จัดกิจกรรม "ศิลปะช่วยน้อง" ซึ่งเป็นการนำเอาศิลปะมาช่วยเสริมสร้างพัฒนาการและจินตนาการให้แก่น้องๆ
เด็กพิเศษ บริษัท นานมี จำกัดโดยคุณปรีญาณี สุพุทธิพงศ์
รองกรรมการผู้จัดการ ได้ กล่าวว่า นานมีได้นำรูปภาพผลงานของเยาวชนไทยที่ส่งมาร่วมประกวดในโครงการฮอร์สอะวอร์ด
ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาเป็นต้นแบบเพื่อจัดกิจกรรม
"ศิลปะช่วยน้อง" โดยมีเป้าหมายจัดให้กลุ่มเด็กพิเศษได้มีโอกาสเรียนร่วมชั้นเรียนกับเด็กปกติ โดยใช้งานศิลปะเป็นสื่อในการเรียนรู้และร่วมกิจกรรมด้วยกัน
ช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ปรากฏผลสัมฤทธิ์ได้อย่างน่าชื่นใจเป็นการฝึกให้เด็กปกติได้เรียนรู้การมีน้ำใจ
การแบ่งปัน เป็นการเพิ่มทักษะและความชำนาญจากการที่ได้สอนเพื่อนกลุ่มเด็กพิเศษ
เหมือนได้ทบทวนความรู้ของตนเอง แต่เกิดประโยชน์มหาศาลกับเด็กกลุ่มพิเศษ ซึ่งนอกจากได้รับจากการเรียนรู้ด้านศิลปะแล้ว พบว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นการนำศิลปะมาเป็นสื่อในการรับรู้และเข้าใจพฤติกรรมเพื่อหาแนวทางในการบำบัดรักษาอันจะช่วยให้เด็กกลุ่มพิเศษอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขไม่เกิดปัญหาสังคม
ไม่เป็นภาระต่อสังคมอันจะส่งผลต่อประเทศชาติ คุณครูปริยา
สุตัณฑวิบูลย์ หรือคุณครูแคนดี้ เล่าว่า สังคมและครอบครัวต้องเข้าใจเด็กพิเศษ ว่าน้องๆ
เหล่านี้อาจแสดงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์หลายอย่างซึ่งเป็นเรื่องปกติด้วยสภาพของอาการเจ็บป่วย
เช่น กรีดร้อง ก้าวร้าว หรือบางคนเงียบ นิ่งเฉย เก็บตัว
ไม่กล้าแสดงออกเพราะคิดว่าตนเองไม่เหมือนคนอื่น
พ่อแม่และครอบครัวจำเป็นต้องเข้าใจและช่วยปรับพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ได้ด้วยศิลปะ
ซึ่งเป็นกิจกรรมง่ายๆ แต่ช่วยเยียวยาและกระตุ้นน้องๆกลุ่มนี้ได้มาก
ทำให้พวกเขาปลดปล่อยพลังในตนเองและความก้าวร้าวต่างๆ ออกมา
รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดที่สะสม และเปิดตัวคือรู้จักเข้าสังคม
มีการพูดคุยกับเพื่อน คุณครู ครอบครัว และคนรอบข้าง "วิธีการง่ายๆ
ในการสอนศิลปะให้แก่เด็กพิเศษ
คือการสอนสิ่งรอบๆ ตัว
พูดคุยถึงเครื่องมือเครื่องใช้และสิ่งของในชีวิตประจำวันโดยสร้างเป็นคำถามแบบปลายเปิด
เพื่อให้เด็กมีการตอบสนอง
เริ่มจากรูปทรงเรขาคณิตง่ายๆ และการลากเส้นต่างๆ
เพื่อจะช่วยฝึกพัฒนาการเรื่องกล้ามเนื้อ
บางรายใช้แรงกดของการลงน้ำหนักของสีในการระบาย
เพราะมีความบกพร่องในการควบคุมกล้ามเนื้อมือ ชอบกดสีแรงๆ
พยายามสอนเพื่อให้เกิดการปรับพฤติกรรมอย่างค่อยเป็นค่อยไป" คุณครูแคนดี้ เล่า (2 ตุลาคม 2555 จาก http://www.komchadluek.net/detail/20120804/136812/ศิลปะช่วยสื่อเด็กพิเศษรู้เข้าใจ.html#.UGqY1r)
ศิลปะบําบัด (art
therapy) คือ การบําบัดรักษาทางจิตเวชรูปแบบหนึ่ง ที่ประยุกต์ใช้กิจกรรมทาง
ศิลปะเพื่อค้นหาข้อบกพร่อง
การประเมินผลการบําบัดรักษาด้วยศิลปะบําบัด
เน้นที่ กระบวนการและกิจกรรมทางศิลปะ ไม่ได้เน้นที่ผลงานหรือคุณค่าทางศิลปะ (3 ตุลาคม 2555 จาก http://www.happyhomeclinic.com/academy/alt02-arttherapy_artandscience.pdf)
ที่กล่าวมาข้างต้นจึงเป็นการยืนยันได้ว่า
ศิลปะเป็นภาษาสากลที่เชื่อมโยงการสื่อสาร
การรับรู้ ความเข้าใจแก่คนทุกเพศทุกวัยได้อย่างน่าทึ่งและมหัศจรรย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเด็กพิเศษ หรือ "เด็กที่มีความต้องการพิเศษ" สำหรับสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา
(บ้านเฟื่องฟ้า) เป็นหน่วยงานของรัฐ
รับผิดชอบเลี้ยงดูอุปการะเด็กอ่อนพิการทุกประเภททั้งชายและหญิงตั้งแต่แรกเกิดถึง 7 ปี นอกจากจะได้รับงบประมาณจากภาครัฐในการบริหารจัดการก็ไม่เพียงพอด้วยปริมาณเด็กที่ต้องเลี้ยงดูเพิ่มมากขึ้นจึงจำเป็นต้องมีการเปิดรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาเป็นสิ่งของเครื่องใช้สำหรับเด็กอ่อน
ได้แก่ ข้าวสาร ผ้าอ้อมสำเร็จรูป แผ่นรองซับ เสื้อผ้าเด็ก นม จึงมีแนวคิดว่าการทำชั้นวางของโดยออกแบบดีไซน์เป็นรูปสัตว์ที่มีสีสันสดใส
เพื่อมุ่งเน้นการนำศิลปะมาเป็นสื่อให้กลุ่มเด็กพิเศษเกิดความจรรโลงใจและยังช่วยกระตุ้นให้เด็กกลุ่มพิเศษมีความพัฒนาการด้านสมาธิ
ความจำ และการแก้ปัญหาในการแยกแยะรูปทรง ไม่ว่าจะเป็นสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม หรือจะเป็นรูปสัตว์ต่างๆ
ซึ่งนอกจากเด็กจะได้รับความสนุกสนานแล้ว ยังช่วยให้เด็กรู้จักแก้ไขปัญหาเบื้องต้นว่าต้องทำอย่างไรเพื่อเล่นให้สำเร็จนอกจากนี้ประโยชน์ของชั้นวางของดังกล่าวช่วยให้ใช้เป็นที่เก็บของได้อย่างเหมาะสมสวยงามดูดี
3.
วัตถุประสงค์การวิจัย
3.1 เพื่อผลิตต้นแบบเหมือนจริง
(PROTOTYPE) ของศิลปะการออกแบบชั้นวางของเพื่อเด็กพิเศษ ชุด Animal
Planet ที่จัดทำเป็นงานวิจัย
3.2เพื่อศึกษากระบวนศิลปะการออกแบบชั้นวางของเพื่อเด็กพิเศษ
ชุด Animal Planet
3.3 เพื่อใช้ศิลปะเป็นสื่อในการสอน ศึกษา ค้นคว้า การแสดงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของเด็กพิเศษเพื่อการรักษาต่อเนื่องและสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
4.
สมมติฐานการวิจัย
5.
นิยามศัพท์เฉพาะ
งานเพ้นท์ หมายถึง การสร้างสรรค์งานเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวบนวัสดุ
เช่น บนกระดาษ
แผ่นไม้
หรือผนังโดยใช้วัสดุประเภทสี ดินสอ ปากกา ชอล์ค ถ่าน สีน้ำมัน สีน้ำและสีฝุ่น
เขียนหรือระบายให้เป็นสื่อทำให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความเข้าใจ
โดยสร้างผลงานออกมาในรูปร่างหรือรูปแบบต่างๆ และทำให้ผู้ดูเกิดความรู้สึกคล้อยตามหรือเกิดอารมณ์ตามผลงานที่สร้างสรรค์
เด็กพิเศษ (Special
Child) มาจากคำเต็มว่าเด็กทีมีความต้องการพิเศษ(Child with Special Needs ) หมายถึง เด็กกลุ่มที่ต้องได้รับการดูแลช่วยเหลือเป็นพิเศษมากกว่าเด็กทั่วๆไปทั้งในด้านการใช้ชีวิตประจำวัน
การเรียนรู้ และการเข้าสังคม ซึ่งนายแพทย์ทวีศักดิ์
สิริรัตน์เรขา(จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น)ได้แบ่งเด็กพิเศษเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ดังนี้ เด็กที่มีความสามารถพิเศษ เด็กที่มีความพกพร่อง และสุดท้ายเด็กยากจนและด้อยโอกาสแต่ในการศึกษาปัญหาการวิจัยโครงการวิจัย
ศิลปะการออกแบบชั้นวางของเพื่อเด็กพิเศษ จะหมายถึงเด็กพิเศษที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนทางสมองและปัญญาหรือที่รู้จักกันในนาม
บ้านเฟื่องฟ้า ซึ่งรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กอ่อนพิการทุกประเภททั้งชาย และ หญิง อายุแรกเกิดถึง
7 ปี
6.
ขอบเขตการวิจัย
6.1 แบบร่าง (IDEA SKETCH)
6.2 แบบที่ทำการสรุป (CONCEPT SKETCH)
6.3 แบบเพื่อนำไปผลิต (WORKING DRAWING หรือ ART
WORK)
6.4 ต้นแบบเหมือนจริง (PROTOTYPE)
6.5 รายงานการวิจัยจำนวน 3 ฉบับ
6.6 ซีดีรายงานการวิจัยจำนวน 1 ชุด
7.
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
7.1
กระบวนการออกแบบศิลปะการออกแบบชั้นวางของเพื่อเด็กพิเศษ ชุด Animal
Planet
7.2 พัฒนาการเรียนรู้เด็กพิเศษ โดยใช้ศิลปะเป็นสื่อหรือเครื่องมือ
8.
การทบทวนวรรณกรรมและเอกสารอ้างอิง
ในการวิจัยเรื่องารออกแบบศิลปะการออกแบบชั้นวางของเพื่อเด็กพิเศษ
ชุด Animal
Planet ครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ตรงตาม Concept ที่กำหนดไว้และเป็นงานที่ถูกต้องตามหลักทฤษฎีของสีและการจัดองค์ประกอบต่างๆ
ในการออกแบบลวดลาย ผู้ศึกษาจึงใช้หลักการที่เกี่ยวข้องดังนี้
8.1 ทฤษฎี
8.1.1 การออกแบบลวดลาย
เนื้อหาที่เกี่ยวข้องก็คือ
การรู้จักคิด วางแผน ในการสร้างสรรค์สิ่งที่มีอยู่แล้วนำมาปรับปรุง ดัดแปลงแก้ไข
หรือสร้างสรรค์ใหม่โดยใช้วิธีการต่างๆ ทำให้เกิดความงาม
เพื่อการประดิษฐ์ตกแต่งใหม่ให้เหมาะสมกับประโยชน์ใช้สอย (เอมอร
วิศุภกาญจน์,2542 : 2)
8.1.2
หลักการใช้สี
เนื้อหาที่เกี่ยวข้องก็คือ
สีมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับมนุษย์เป็นอย่างมากในด้านของการรับรู้
อารมณ์ความรู้สึก การที่เราจะกำหนดสีลงในลวดลาย
ผู้ออกแบบควรรับรู้หลักการใช้สีเพื่อจะได้กำหนดสีได้ถูกต้อง
เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ และประโยชน์ใช้สอยอีกด้วย
(ดุษฎี สุนทรารชุน,2531
:107)
8.1.3 หลักการใช้สีประกอบร่วมแบบวรรณะ (TONE)
เนื้อหาที่เกี่ยวข้องก็คือ
สีเราจะนำมาระบายนั้นส่วนใหญ่มักจะใช้สีประกอบร่วมแบบ แล้วแต่จุดประสงค์ของผู้ที่ทำการออกแบบที่จะมุ่งที่ทำให้ผู้ดูเกิดความรู้สึก
ไปในทางร้อนหรือ เย็น
หรืออีกทางหนึ่งก็คือทำให้เกิดการผสมผสานและกลมกลืนกัน การใช้สี ประกอบร่วม วรรณะจะไม่ใช้วรรณะใดวรรณะหนึ่งโดดเดี่ยว
โดยกำหนดหลักการใช้สีไว้ ในอัตรา 50/50,60
/40,80/20 (คนึง จันทร์ศิริ:มปป.)
8.2 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
8.2.1 พุฑฒิพงษ์
เพชรรัตน์ : การศึกษาพฤติกรรมซ้ำๆ ของนักเรียนออทิสติกอายุ 7-10
ปีในโรงเรียนศึกษาพิเศษ
จากการใช้โปรแกรมปรับพฤติกรรมกิจกรรมการเคลื่อนไหว พบว่า
หลังจากใช้โปรแกรมปรับพฤติกรรมกิจกรรมการเตลื่อนไหวนักเรียนออทิสติกทั้ง 3 คน มีพฤติกรรมซ้ำๆ ลดลงอยู่ในระดับพอใช้และระดับปานกลาง (2 ตุลาคม 2555 จาก http://thesis.swu.ac.th/swuthesis/Spe_Ed/Puttipong_P.pdf)
9.
ระเบียบวิธีวิจัย
9.1 ประชากร
กลุ่มผู้บริโภค Generation
จำนวน ........... คน
9.2 การสุ่มตัวอย่าง
ใช้การสุ่มแบบง่าย
ตามสูตรยามาเน
จากนั้นจึงกำหนดกระบวนการตามกรอบการวิจัย โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
9.2.1 ขั้นตอนการวางแผนก่อนการผลิต (PRE-PRODUCTION)
- กำหนดประเด็นของปัญหา ตัวแปรต้น
และตัวแปรตาม เพื่อ
ตั้งสมมติฐาน
- จัดทำแบบร่าง (IDEA
SKETCH) และทำการสรุปแบบตามสมมติฐาน
(CONCEPT SKETCH)
9.2.2 ขั้นตอนการผลิต (PRODUCTION)
- แสดงกระบวนการผลิตต้นแบบเหมือนจริง
9.2.3 ขั้นตอนหลังการผลิต ( POST
PRODUCTION)
- ประเมินผลด้วยเครื่องมือที่สร้างไว้โดยมีความสัมพันธ์กับลักษณะของ
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
- วิเคราะห์ข้อมูลและรายงานผลการวิจัยในรูปแบบความเรียง
9.3 เครื่องมือในการวิเคราะห์มูล
-
แบบสอบถามความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์
-
แบบสัมภาษณ์
9.4 การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้

10. แผนการดำเนินงานตลอดโครงการ
กิจกรรม
|
พย
55
|
ธค
55
|
มค
56
|
กพ
56
|
หมายเหตุ
|
1.การวางแผนก่อนการผลิต
- ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล
- แบบร่าง
- สรุปแบบ
|
|||||
2.กระบวนการผลิต
- สรุปแบบ
|
|||||
3.กระบวนการหลังการผลิต
- ทดสอบสมมติฐาน
- วิเคราะห์ข้อมูล
- แปรผล
- เรียบเรียงรายงานการวิจัย
|
11. รายละเอียดงบประมาณ
11.1 ค่าใช้สอย
ลำดับ
|
รายการ
|
ราคาต่อ
หน่วย
|
จำนวน
|
รวมเงิน
|
หมายเหตุ
|
1.
|
ค่าจ้างพิมพ์
|
10 บาท
|
200 แผ่น
|
2,000 บาท
|
|
2.
|
ค่าจ้างปริ้นสี
|
5 บาท
|
200 แผ่น
|
1,000 บาท
|
|
รวมเป็นเงิน
(…สามพันบาทถ้วน...)
|
3,000 บาท
|
11.2 ค่าวัสดุ (ค่าวัสดุที่ผลิตผลงานต้นแบบเหมือนจริง)
ลำดับ
|
รายการ
|
ราคาต่อ
หน่วย
|
จำนวน
|
รวมเงิน
|
หมายเหตุ
|
1.
|
|||||
2.
|
|||||
รวมเป็นเงิน
(......)
|
รวมงบประมาณทั้งสิ้นเป็นเงิน... … บาท
(… ...)
หมายเหตุ : ถัวเฉลี่ยทุกรายการ
ลงชื่อ .............................................
( นายวรมน เทพรัตน์ )
ผู้ขอทุนวิจัย
ประวัติผู้วิจัย
ชื่อ-สกุล นายวรมน เทพรัตน์
Mr. WORAMON TEPARAT
รหัสประจำตัว 531132XXXX
ที่อยู่ปัจจุบัน 20/197 ซ.รัชดาภิเษก36 ถนนรัชดาภิเษก แขวง จันทรเกษม
เขต จตุจัตร จังหวัดกรุงเทพฯ 10900
โทรศัพท์มือถือ 086-955-XXXX
โทรศัพท์ที่พักอาศัย -
E-Mail: avocado69@hotmail.com
, woramon.te@gmail.com
ประวัติการศึกษา - ประถมศึกษา โรงเรียนอนุบาล
จังหวัด สงขลา
- มัธยมศึกษา
โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัด สงขลา
- กำลังศึกษาชั้นปีที่
4 สาขาวิชาศิลปกรรม (ออกแบบประยุกต์ศิลป์)
ภาควิชามนุษยศาสตร์
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
…………………………………
( นายวรมน เทพรัตน์ )
ผู้วิจัย
วันที่......./เดือน..../พ.ศ.........